บันทึกครั้งที่ 16 วันที่ 6 ต.ค 53

เป็นการเรียนการสอนครั้งสุดท้าย ของรายวิชาการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

- ข้อสอบเกี่ยวกับทักษะทางวิทยาศาสตร์ และยกตัวอย่างประกอบ
- ประเมินอาจารย์หรือสะท้อน อาจารย์

บันทึกครั้งที่ 15 วันที่ 29 ก.ย 53

ส่งข้อสอบเทคนิคการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

เนื้อหาการเรียนการสอน

อาจารย์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยให้นำไปปรับปรุงแก้ไข แล้วให้
แห่ลงอ่างอิงและสอนเพิ่มเติมในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

บันทึกครั้งที่ 14 วันที่ 22 ก.ย 53

สรุปเกี่ยวกับแผนผัง mind map เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นต่อการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะต้องจัดเนื้อที่และบริเวณให้เอื้อต่อการเรียน กล่าวคือ จัดให้มีเนื้อที่บริเวณตรงกลางให้เพียงพอต่อการออกมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน จะช่วยให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็นและสนใจที่จะปฏิบัติด้วย

บันทึกครั้งที่ 13 วันที่ 15 ก.ย53

นำเสนอ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

ในรูปแบบวิทยาศาสตร์ กับหน่วยต่าง ๆ ในรูปแบบ mind map รายกลุ่ม

ได้แก่ - กลุ่ม 1 ผลไม้

- กลุ่ม 2 สัตว์

- กลุ่ม 3 ผัก

อ. ร่วมอภิปราย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนผัง ที่ทำมา นำมาเชื่อมโยงกับการเรียนการสอนให้ถูกต้อง

บันทึกครั้ง ที่ 12 วันที่ 8 ก.ย 53

สรุปการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนสาธิต

- นำเสนอ หน้าห้อง ทีละกลุ่ม รูปแบบ power point
- จับกลุ่มกลุ่มละ 5คน เลือกหน่วยการเรียนสำหรับเด็กปฐมวัย
-ให้เลือกส่วนลักษณะและองค์ประกอบที่สำคัญๆ เป็นรูปแบบ mind map

บันทึกครั้งที่ 11 วันที่ 1 ต.ค 53

จัดกิจกรรมงานวันวิทยาศาสตร์หรรษา

นักสึกษาชั้นปีที่ 3 ไปจัดกิจกรรมให้กับเด็ก โรงเรียนสาธิต

มีกิจกรรมทั้งหมด 4 ฐาน

สะท้อนตนเอง

รู้สึกดีใจมากที่ได้ไปจัดกิจกรรมให้กับเด็ก เด็ก ๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก น้องๆ น่ารักมากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีคุณครที่โรงเรียนสาธิตแนะนำและให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี และยังได้ฝึกประสบการณ์ที่ยิ่งใหญสำหรับดิฉันด้วย

บันทึกครั้งที่ 10 วันที่ 25 ต.ค 53

นำเสนอสื่อ วิทยาศาสตร์

นำเสนองานสื่อวิทยาศาสตร์ทีละกลุ่ม

ประกอบด้วยเรื่อง

- มหัศจรรย์ของน้ำ

- ความลับของแสง

- เรื่องอากาศ

- เรื่องของแสง

* เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลงจัดกิจกรรมที่ โรงเรียนสาธิต ในวันศุกร์ ( วันวิทยาศาสตร์ )

บันทึกครั้งที่ 9 วันที่ 18 ส.ค 53

เข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่าย ที่ ฐานทัพเรือสัตหับ อ. สัตหีบ จ. ชลบุรี

สะท้อนตนเอง

การไปเข้าค่ายกิจกรรมที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ทำให้ดิฉันเรียนรู้อะไรหลายอย่างเช่น ความรักความสามัคีที่มีในหมู่คณะ การดูแลซึ่งกันและกันรุ่นน้องกับรุ่พี่ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความสนุกสนานที้งการเล่นเกม การเดินป่า การเดินชมเรือฐานทัพใหญ การได้เล่นน้ำทะเล ดูเต่า ในพิพิธภัณท์ และความรัก ความอบอุ่นที่ อ. จ๋ามอบให้ ในการไปเที่ยวครั้งนี้นับว่าคุ้มมากคะ ขอบคุณ อ.จ๋ามากนะคะ

บันทึกครั้ง ที่ 8 วันที่ 11 ส.ค 53

สอบกลางภาค

บันทึกครั้งที่ 7 วันที่ 4 ส.ค 53

กิจกรรมไหว้ครู และบายศรี ของคณะศึกษาศาสตร์
สาขา การศึกษาปฐมวัย

ชั้นปี ที่ 1-4 และพิธีบายศรีสู่ขวัญน้อง ปี 1

บันทึกครั้งที่ 6 วันที่ 28 ก.ค 53

ดูวีดีทัศน์ มหัศจรรย์ของน้ำ

การดื่มน้ำช้ายชดเชยน้ำที่ขาดหายไป ไอน้ำระเหยไปกระทบกันกลายเป็นหยดน้ำ ฝนคือไอน้ำที่ระเหยไปรวมตัวเป็นก้นเฆกกลายเป็นฝน ถ้าภาชนะที่มีหน้ากว้างจะทำให้การระเหยได้ดีกว่า น้ำเกลือมีความหนาแน่นกว่าน้ำเปลา เกลื่อมีปฏิกริยาสามารถดูดความร้อนจากน้ำแข็งได้ น้ำมีคุณสมบัติเป็นแร็งกดดันน้อย รูล่างมีแรงกดดันมากกว่า เป็นเพราะมีแร็งกดดันมากกว่า แร็งตึงผิวเมื่อใส่วัตถุเล็ก ๆ ลงในแก้วเช่น เข็ม น้ำ จะดันให้ลอยขึ้นมา เหนือน้ำ

คุณสมบัติของน้ำ
สถานะ การระเหย

ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
การสังเกต

บันทึกครั้งที่ 5 วันที่ 21 ก.ค 2553

ต่อจาก อาทิตย์ที่แล้ว ... นำเสนอกิจกรรม ลดภาวะโลกร้อน
กลุ่มบี การแยกขยะ ใส่ถังให้ถูกต้อง
- นำเสนอกิจกรรมได้ดี
- มีการเกรินนำไดดี
- มีข้อมูลยังไม่เพียงพอ
-เด็กให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

กลุ่มแป้ง
- ยังไม่มีการเกรินนนำ
- ยังไมมีประเด็นหลัก
- กิจกรรมซ้ำ
- เรียงลำดับก่อนหลัง ได้ถูกต้อง

หลักการและเหตุผล
เป้าหมาย จำนวนคุณภาพ
ควรมี ภาวะโลกร้อนคืออะไร หาแหลงอ่างอิง

บันทึกครั้งที่ 4 วันที่ 14 ก.ค 2553

วันนี้ อ.ให้นำเสนอ กิจกรรมที่ให้เตรียมมา พร้อมยกตัวอยาง กิจกรรม ลดภาวะโลกร้อนสำหรับเด็กปฐมวัย พร้อมอธิบาย วิธีการใช้ หลักการและเหตุผล

กลุ่มที่ 1 ตาต้า ลดภาวะโลกร้อน ด้วยถุงผ้า
โดยทดสอบกับเด็กอนุบาล 2 โรงเรียนสาธิต
สะท้อนงาน กลุ่ม
- เนื้อหา การเปลียนแปลง ของโลกควรมีรูปภาพให้ชัดเจน
- กิจกรรม บทบาทสมมุติ เนี้อหาไม่เพียงพอ ว่าเป็นการลดภาวะโลกร้อน
- เชิงกิจกรรม ให้ประโยชน์อย่างไร เนื้อหาไม่ครบ

กลุ่มที่ 2 กลุ่ม แต้ว กระถางต้นไม้จากขวดพลาสติก
-ไม่มีแหลงความรู้และข้อมูล
- มีการเกรินนำได้ดี เข้าสู่ประเด็น
- มีการใช้สื่อไม่เหมาะสม มีขนาดเล็ก การเชื่อมโยงไม่ตรงกัน

กลุ่มที่ ยังไม่นำเสนอ ให้นำเสนอในคาบต่อไป....

บันทึกครั้งที่ 3 วันที่ 7 ก.ค 53

อ ให้นักศึกษา แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4- 5 คน คิดกิจกรรม ลกภาวะโลกร้อนสำหรับเด็กปฐมวัย กลุ่มละ 1 กิจกรรมพร้อมยกตัวอย่าง กิจกรรม และนำเสนอ ในคาบต่อไป

บันทึกครั้งที่ 2

จากที่ได้ฟัง อาจารย์ จินตนา ในคาบนี้ ทำให้รู้เรื่องวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยมากขึ้น เช่น เหมือนคำถามที่ อ .ถามว่า วิทยาศาสตร์ เป็นยาขมสำหรับเด็กหรือไม่ แล้วให้นักศึกษาตอบ วิทยาศาสตร์ไม่ใช่ยาขมสำหรับเด็ก เพราะวิทยาศาสตร์เป็นการฝึกให้เด็กเป็นคนชั่งสังเกต เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ได้ทดลองสิ่งใหม่ๆ และวิทยาศาสตร์ต้องใช้ในชีวิตประจำวันของเด็ก ๆ และได้เปิดโอกาศให้เด็ก ๆ ได้ทดลองเรียนรู้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 และช่วยส่งเสริมให้เด็ก ได้คิด เป็นการเตรียมเด็ก ใหสามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นในวัยที่สูงขึ้น

ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก
1. ปิดกั้นโอกาศทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการไม่ไห้ความสนใจกับคำถาม
2. ไม่ไห้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็ก ๆ
3. ไม่จัดประสบการณ์ การเรียนรู้ที่ส่งเสริมและต่อยอดทักษะแนวคิดที่ถูกต้องใหเหมาะสม

ทบทวนบทบาท
1. เปิดโอกาศทางการเรียนรู้ของพวกเขาโดยการให้ความสนจัยกับคำถาม
2. ให้ความสนจัยกับการค้นพบแบบเด็ก ๆ
3. จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้อง
4. ครูและผู้ปกครองต้องยอมรับในเรื่องจินตนาการที่มีอยู่สูงสุดในเด็กวัยนี้
5. ครูต้องแม่นยำในพัฒนาการของเด็ก

ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย 3-5 ปี
มีช่วงความสนใจ 8-10 นาที

บันทึกครั้งที่ 1 คาบที่ 1

วิทยาศาสตร์
1 วิทยาศาสตร์ เป็นยาขมสำหรับเด็กหรือไม่
- ไม่จริง เพราะ เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
- เด็กได้ทดลองเอง
- ได้ฝึกการสังเกต

2. ถ้าเด็กเรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจะยากเกินไปหรือไม่
- ไม่เพราะ วิทยาศาสตร์ ใช้ในชีวิตประจำวัน

วิทยาศาสตร์คือความพยายามของมนุษย์ที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัว และตัวตนของตนเอง ความพยายามเช่นนี้ติดตัวของมนุษย์ตั้งแต่เกิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งสังเกตและคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาเจอ และบางงครั้งก็เกิดคำถามอยากรู้อยากเห็นเกินกว่าผู้ใหญ่จะให้คำตอบ
การทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัวและตัวตนของตนเองโดยการสังเกตและคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาเจอช่วยเชื่อมโยงเซลล์สมองของเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็ก ๆ ส่งเสริมให้เด็กได้คิด เป็นการเตรียมเด็กให้สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นในวัยที่สูงขึ้น

kkll;;